ค่าน้ำบอล คืออะไร? รวมวิธีคิดค่าน้ำแทงบอลทุกประเภทที่มือใหม่ต้องรู้

คุณเคยแทงบอลแล้วได้เงินน้อยกว่าที่คิดไว้ไหม? หรือบางครั้งเสียเต็ม ๆ แบบไม่เข้าใจว่าทำไมโดนหักเยอะ ทั้งที่ราคาก็ไม่ได้ต่างกันมาก… ถ้าใช่ ปัญหาอาจไม่ได้อยู่ที่ทีมที่คุณเลือก แต่อยู่ที่สิ่งที่เรียกว่า “ค่าน้ำบอล” นี่แหละ! มือใหม่หลายคนมักมองข้ามจุดนี้ ทั้งที่มันคือหัวใจของการคำนวณกำไรขาดทุนในการแทงบอลทุกบิล

ในบทความนี้ 569clubs จะพาคุณไปรู้จักค่าน้ำบอลทั้ง 4 ประเภทที่เว็บแทงบอลส่วนใหญ่นิยมใช้ พร้อมสอน วิธีคิดค่าน้ำแทงบอลแบบเข้าใจง่าย แยกตามรูปแบบ MY, EU, HK และ INDO ครบถ้วนในที่เดียว ไม่ว่าคุณจะแทงบอลเดี่ยวหรือบอลสูงต่ำก็มั่นใจได้ว่าอ่านจบแล้วจะไม่เสียเปรียบเจ้ามืออีกต่อไป

สารบัญเนื้อหา

ค่าน้ำบอล คืออะไร ทำไมต้องรู้ก่อนแทงบอล

ค่าน้ำบอล หรือ อัตราจ่าย คือ “ตัวเลขที่ใช้แสดงผลกำไรหรือขาดทุนที่คุณจะได้รับจากการแทงบอล” และยังบอกด้วยว่าเจ้ามือจะเก็บค่าธรรมเนียมจากคุณเท่าไหร่เมื่อแทงชนะ เช่น หากค่าน้ำคือ 0.95 หมายความว่า ถ้าแทง 100 บาท แล้วชนะ จะได้รับ 95 บาท ส่วนอีก 5 บาทถูกหักเป็นค่าธรรมเนียมให้เจ้ามือ

ตัวเลขค่าน้ำจึงไม่ได้มีไว้ดูเล่น ๆ เพราะมันส่งผลโดยตรงต่อเงินที่คุณจะได้จริง ไม่ว่าจะแทงถูกหรือผิด หากไม่เข้าใจวิธีดูค่าน้ำให้ดี อาจทำให้คุณได้เงินน้อยกว่าที่ควร หรือขาดทุนมากกว่าที่คิด โดยไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ

ยิ่งถ้าคุณเล่น แทงบอลเดี่ยว หรือ แทงบอลสูงต่ำ ที่อิงราคาต่อรองชัดเจน การรู้ว่าค่าน้ำหมายถึงอะไร และมีผลยังไงกับบิลที่คุณกดแทง จึงเป็นพื้นฐานสำคัญที่มือใหม่ทุกคนต้องเข้าใจก่อนลงเงินจริง

ค่าน้ำบอล มีอะไรบ้าง? รู้จักค่าน้ำแทงบอล 4 ประเภท บนเว็บ ufabet

แม้ว่าค่าน้ำบอลจะดูเป็นแค่ตัวเลข แต่รู้หรือไม่ว่าค่าน้ำที่คุณเห็นในแต่ละเว็บอาจไม่เหมือนกันเลย โดยเฉพาะในเว็บใหญ่ระดับสากลอย่าง ufabet หรือเว็บตรงอย่าง 569clubs ที่นี่คุณสามารถเลือกประเภทค่าน้ำก่อนแทงได้ทันที เพราะเราเปิดให้เลือกค่าน้ำได้หลายรูปแบบ เพื่อให้ผู้เล่นมีทางเลือกที่เหมาะกับสไตล์การคิดเงินของตัวเองมากที่สุด

รูปแบบค่าน้ำที่ใช้กันทั่วไปมีอยู่ 4 ประเภทหลัก ได้แก่:

  1. MY (มาเลย์) – นิยมในไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
  2. EU (ยุโรป) – ใช้แพร่หลายในเว็บยุโรปและเว็บใหญ่
  3. HK (ฮ่องกง) – เน้นโชว์กำไรสุทธิ
  4. INDO (อินโดนีเซีย) – คล้าย MY แต่ตัวเลขแสดงต่างกัน

ทั้ง 4 แบบนี้อาจให้ผลลัพธ์คล้ายกันในบางกรณี แต่มี “วิธีการแสดงผล” และ “สูตรคิดเงิน” ที่แตกต่างกัน หากคุณเข้าใจว่าแต่ละแบบคืออะไร ก็จะเลือกใช้ให้คุ้มค่าที่สุดในแต่ละบิลได้

และถ้าคุณเป็นมือใหม่ที่ยังไม่แน่ใจว่าแต่ละรูปแบบคิดเงินต่างกันยังไง ไม่ต้องกังวล! ถัดจากนี้เราจะพาไปดู วิธีคิดค่าน้ำแทงบอลทั้ง 4 แบบ เริ่มจากรูปแบบที่คนไทยคุ้นเคยที่สุดอย่าง ค่าน้ำ MY (มาเลย์) ที่มีทั้งค่าน้ำดำ ค่าน้ำแดง พร้อมวิธีดูว่าคุณจะได้หรือเสียเท่าไหร่ในแต่ละบิลอย่างละเอียด

วิธีคิดค่าน้ำบอลแบบ MY (มาเลย์)

ค่าน้ำ MY หรือ ค่าน้ำมาเลย์ เป็นรูปแบบค่าน้ำที่แสดงผลในหน่วยทศนิยม และถูกใช้แพร่หลายในหลายประเทศแถบเอเชีย รวมถึงประเทศไทย จุดเด่นของค่าน้ำแบบนี้คือ แบ่งออกเป็น 2 แบบชัดเจน ได้แก่ “ค่าน้ำดำ” และ “ค่าน้ำแดง” ซึ่งทั้งสองแบบจะมีผลต่อการคิดเงินต่างกันอย่างสิ้นเชิง

  1. ค่าน้ำดำ (ตัวเลขบวก): ได้กำไรตามค่าน้ำ เสียเต็มจำนวน
  2. ค่าน้ำแดง (ตัวเลขติดลบ): ได้กำไรเต็มจำนวน เสียตามค่าน้ำ

ค่าน้ำดำ (ตัวเลขเป็นบวก เช่น 0.88, 0.95)

หากคุณเลือกแทงในราคาค่าน้ำดำ จะเป็นกรณีที่ เวลาได้จะได้ตามค่าน้ำ แต่เสียจะเสียเต็มจำนวนที่แทง

ตัวอย่างการคิดค่าน้ำดำ MY:
คุณแทง 100 บาท ที่ค่าน้ำ 0.95

→ ถ้าชนะ = 100 x 0.95 ได้กำไร 95 บาท (รวมทุนได้ 195)
→ ถ้าแพ้ = เสียเต็ม 100 บาท

✅ จุดเด่นค่าน้ำดำ = มักใช้คู่กับราคาต่อรองที่มีโอกาสเกิดขึ้นสูง อีกทั้งยังคำนวณง่ายและเข้าใจไม่ยาก
⚠ ข้อควรระวัง = ได้กำไรน้อยกว่าน้ำแดง แถมเวลาเสียยังเสียเต็มจำนวนที่แทง

ค่าน้ำแดง (ตัวเลขติดลบ เช่น -0.90, -0.78)

ค่าน้ำแดงจะทำงานตรงกันข้ามกับค่าน้ำดำ คือ ถ้าได้จะได้เต็มจำนวนที่แทง แต่ถ้าเสีย จะเสียตามค่าน้ำ

ตัวอย่างการคิดค่าน้ำแดง MY:
คุณแทง 100 บาท ที่ค่าน้ำ -0.90

→ ถ้าชนะ = ได้กำไรเต็ม 100 บาท (รวมทุนได้ 200)
→ ถ้าแพ้ = 100 x abs(-0.90) เสียแค่ 90 บาท

✅ จุดเด่นค่าน้ำแดง = ได้กำไรเยอะหากแทงถูก และเวลาเสียจะเสียน้อยกว่าปกติ
ข้อควรระวัง = มักใช้คู่กับราคาต่อรองที่เป็นไปได้ยาก เช่น ต่อแต้มสูงกว่าปกติทั้งที่ทีมนั้นมีโอกาสยิงน้อยมาก

วิธีคิดค่าน้ำบอลแบบ EU (ยุโรป)

ค่าน้ำ EU หรือที่เรียกกันว่า ค่าน้ำยุโรป เป็นรูปแบบค่าน้ำที่นิยมใช้ในเว็บต่างประเทศ และเริ่มมีให้เลือกในหลายเว็บใหญ่ เช่น ufabet หรือ 569clubs หากคุณแทงค่าน้ำยุโรป เวลาได้จะได้ตามค่าน้ำ เวลาเสียจะเสียเต็มจำนวนที่แทง โดยเป็นการคิด ผลตอบแทนแบบรวมทุนไว้แล้ว ทำให้ผู้เล่นเห็นยอดรวมที่จะได้รับทันทีหากชนะ ต่างจากค่าน้ำ MY ที่คิดแยกทุนออกไป

ตัวอย่างการคิดค่าน้ำ EU:
คุณแทง 100 บาท ที่ค่าน้ำ 1.95

→ ถ้าชนะ = 100 × 1.95 = ได้เงินรวม 195 บาท (กำไร 95 บาท + ทุน 100 บาท)
→ ถ้าแพ้ = เสียเต็ม 100 บาท

✅ จุดเด่นค่าน้ำยุโรป = ตัวเลขแสดงผลตอบแทนแบบรวมทุน ไม่มีบวกหรือลบให้งงแบบ MY ทำให้เห็นยอดสุทธิทันที ใช้ง่ายต่อการเปรียบเทียบว่าแทงคู่ไหนได้เยอะกว่า

⚠ ข้อควรระวัง = อาจเข้าใจผิดว่าตัวเลขค่าน้ำคือกำไรทั้งหมด จึงต้องหักทุนออกเองหากอยากรู้กำไรจริง

วิธีคิดค่าน้ำบอลแบบ HK (ฮ่องกง)

ค่าน้ำ HK หรือ ค่าน้ำฮ่องกง เป็นรูปแบบค่าน้ำที่ดูคล้ายกับค่าน้ำ EU คือ เวลาได้จะได้ตามค่าน้ำ เวลาเสียจะเสียเต็มจำนวนที่แทง แต่มีความแตกต่างสำคัญตรงที่ ตัวเลขค่าน้ำจะแสดงเฉพาะ “กำไร” ที่จะได้รับเท่านั้น ไม่รวมทุน

ตัวอย่างการคิดค่าน้ำ HK:
คุณแทง 100 บาท ที่ค่าน้ำ 0.95

→ ถ้าชนะ = 100 × 0.95 = ได้กำไร 95 บาท + ทุนคืน 100 = รับเงินรวม 195 บาท
→ ถ้าแพ้ = เสียเต็ม 100 บาท

✅ จุดเด่นค่าน้ำยุโรป = คิดง่ายไม่สับสนตัวเลขค่าน้ำแสดงผลกำไรโดยตรง

⚠ ข้อควรระวัง = อาจสับสนกับค่าน้ำ EU เพราะตัวเลขใกล้เคียงกัน

วิธีคิดค่าน้ำบอลแบบ INDO (อินโดนีเซีย)

ค่าน้ำ INDO หรือ ค่าน้ำอินโดนีเซีย เป็นรูปแบบค่าน้ำที่ใช้ตัวเลขทั้งบวกและลบคล้าย MY แต่จะมีหลักการคิดเงินแตกต่างกันไปตามเครื่องหมาย ถ้าเป็น ตัวเลขบวก จะคิดกำไรแบบเดียวกับค่าน้ำ HK คือแสดงเฉพาะกำไร (ไม่รวมทุน) ส่วนถ้าเป็น ตัวเลขติดลบ จะคิดแบบเดียวกับค่าน้ำแดง MY คือเวลาเสียจะเสียตามค่าน้ำ และเวลาได้จะได้เต็มจำนวนที่แทง สรุปคือ

  1. ค่าน้ำบวก: ได้กำไรตามค่าน้ำ ไม่รวมทุน, เสียเต็มจำนวนที่แทง
  2. ค่าน้ำลบ: ได้กำไรเต็มจำนวน, เสียตามค่าน้ำ

ตัวอย่างค่าน้ำ INDO:

🔹 ค่าน้ำบวก

คุณแทง 100 บาท ที่ค่าน้ำ 1.25

→ ถ้าชนะ = 100 × 1.25 = ได้กำไร 125 บาท + ทุนคืน 100 = รับเงินรวม 225 บาท
→ ถ้าแพ้ = เสียเต็ม 100 บาท

🔹 ค่าน้ำลบ

คุณแทง 100 บาท ที่ค่าน้ำ -0.95

→ ถ้าชนะ = ได้กำไรเต็ม 100 บาท
→ ถ้าแพ้ = 100 × abs(-0.95) เสียแค่ 95 บาท

✅ จุดเด่นค่าน้ำยุโรป = รวมข้อดีของค่าน้ำ MY และ HK เข้าด้วยกัน

⚠ ข้อควรระวัง = ตัวเลขค่าน้ำดูคล้ายแต่คิดเงินไม่เหมือนค่าน้ำอื่นและอาจทำให้สับสนได้

สรุปค่าน้ำบอลแต่ละแบบ พร้อมเทียบความต่าง

หลังจากที่ได้รู้จักค่าน้ำทั้ง 4 รูปแบบแล้ว ต่อไปนี้คือสรุปสั้น ๆ เพื่อให้เห็นภาพรวมชัดเจนว่าแต่ละแบบต่างกันอย่างไร และคุณเหมาะกับค่าน้ำแบบไหน

ประเภทค่าน้ำ คิดกำไรเมื่อชนะ เสียเงินเมื่อแพ้ รวมทุนในตัวเลข
MY (มาเลย์) ค่าน้ำแดง: ได้เต็ม
ค่าน้ำดำ: ได้ตามค่าน้ำ
ค่าน้ำแดง: เสียตามค่าน้ำ
ค่าน้ำดำ: เสียเต็ม
EU (ยุโรป) ได้ตามค่าน้ำ (รวมทุน) เสียเต็ม
HK (ฮ่องกง) ได้ตามค่าน้ำ (ไม่รวมทุน) เสียเต็ม
INDO ค่าน้ำบวก: ได้ตามค่าน้ำ
ค่าน้ำลบ: ได้เต็ม
ค่าน้ำบวก: เสียเต็ม
ค่าน้ำลบ: เสียตามค่าน้ำ

🔎 ค่าน้ำบอลแบบไหนเหมาะกับคุณ?

🔹 ถ้าอยากเริ่มต้นจากสิ่งที่คนไทยส่วนใหญ่ใช้ → เริ่มจาก ค่าน้ำ MY

🔹 ถ้าอยากเห็นยอดรวมเวลาได้แบบง่าย ๆ → ใช้ ค่าน้ำ EU

🔹 ถ้าอยากรู้กำไรแท้ ๆ โดยไม่รวมทุน → ลองดู ค่าน้ำ HK

🔹 ถ้าเข้าใจระบบแล้ว อยากยืดหยุ่นสูง → ค่าน้ำ INDO เป็นตัวเลือกเสริม

และหากคุณกำลังมองหาเว็บแทงบอลที่ใช้งานง่าย ไม่มีขั้นต่ำ และมีค่าน้ำให้เลือกครบทุกแบบ 569clubs คือคำตอบที่ใช่! เว็บนี้รีแบรนด์จาก ufa569 เพิ่มความทันสมัย ใช้แพลตฟอร์มเดิมพันคุณภาพจาก ufabet ที่คนไทยไว้ใจมากที่สุด สมัครง่าย เล่นได้ทุกคู่ พร้อมทีมซัพพอร์ตดูแลตลอด 24 ชม.